1. การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์คืออะไร มีความจำเป็นหรือไม่อย่างไรที่จะต้องพัฒนารูปแบบการสอนดังกล่าวนี้
การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
1. การดำเนินการศึกษาและพัฒนาแผนการเรียนการสอนโดยใช้วิธีบูรณาการองค์ความรู้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันแล้วนำเสนอเป็นขั้นตอนของการจัดการเรียนการสอน
2. ในการจัดการเรียนการสอนต้องเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการกระตุ้นความสนใจให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเรียน มีกระบวนการคิดแก้ปัญหา สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองโดยมี 5 ขั้นตอน ดังนี้
2.1 การสร้างองค์ความรู้
2.2. การจัดและเก็บ
2.3 การถ่ายทอดความรู้
2.4 การนำความรู้ไปใช้
2.5 การประเมินผล
การพัฒนาผู้สอนและผู้เรียน
ด้าน
|
ผู้สอน
|
ผู้เรียน
|
1. ความรู้
|
ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาสาระ เช่น การเลือกกิจกรรม เทคนิคและรูปแบบในการสอน
|
ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ด้วยตนเอง
|
2. ทักษะ
|
- ทักษะในการสื่อสาร
- ทักษะในการตั้งคำถาม
- การจัดกิจกรรมในการเรียนรู้
|
- การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา
- การเลือกกลวิธีในการเรียนรู้
|
3. เจตคติ
|
- มีจิตวิญญาณในความเป็นครู
- แสวงหาความรู้ใหม่อย่างสม่ำเสมอ
|
- ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
- กล้าแสดงออก
- รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
|
ความจำเป็นในการพัฒนา
1. เนื่องจากระบบการศึกษาไทยมีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนารูปแบบการสอนให้สอดคล้องกับการศึกษาในยุคปัจจุบัน
2. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
3. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ในการเรียนในเรื่องนั้น ๆ และเลือกกลวิธีในการเรียนรู้ให้เหมาะสม ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพ
2. จงวิเคราะห์สภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีประเด็นใดบ้างที่สมควรนำมาเป็นปัญหาเร่งด่านที่จะต้องวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ประเด็นที่ควรนำมาเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
- การเรียนการสอนที่เคยจำกัดเฉพาะในห้องเรียน การที่นักเรียนเรียนเฉพาะในห้องเรียนไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ในการเรียนรู้ที่แท้จริงเพราะปัจจุบันองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีอยู่นอกห้องเรียนมากมาย ดังนั้นการเรียนการสอนจะต้องขยายออกจากออกเรียนเพราะการเรียนเพียงในห้องไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริง
- การพัฒนาครู ครูไม่ควรจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้สอนเท่านั้นแต่จะต้องเรียนไปพร้อมกับนักเรียนด้วย เนื่องจากปัจจุบันโลกก้าวไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีก็ยิ่งไปได้เร็ว ดังนั้นครูจะต้องตามความเปลี่ยนแปลงให้ทัน ซึ่งครูอาจจะต้องเรียนรู้ให้มากกว่านักเรียนเพื่อจะสามารถเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริง
- มีการปฏิรูปเรื่องของการวัดผล จะต้องวัดผลจากผลการเรียนที่แท้จริงที่เด็กจะนำไปใช้ได้การวัดจะต้องวัดจากความคิด รู้จักคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น โดยจะต้องไม่เป็นเพียงการวัดผลจากการให้เลือกจากคำตอบถูกหรือผิดแต่จะต้องเป็นการวัดผลอยู่บนฐานที่ทำให้นักเรียนสามารถใช้ความคิดมีกระบวนกาทางการคิดที่เป็นระบบ
3. หลักการ แนวคิด ทฤษฎี ที่นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนปัจจุบันมีความเป็นไปได้เพียงใดในการจัดการศึกษา 3.0 และเมื่อรัฐบาลประกาศจัดการศึกษา 4.0 มีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร
การจัดการศึกษา 3.0 และ 4.0
การจัดการศึกษา 3.0
(ยุคสร้างองค์ความรู้)
|
การจัดการศึกษา 4.0
(ยุคสร้างนวัตกรรม)
| |
ความหมายของการศึกษา
|
สร้างองค์ความรู้ร่วมกัน
|
สร้างองค์ความรู้จากความสนใจรายบุคคล
|
บทบาทของเทคโนโลยี
|
การสร้างองค์ความรู้จากเทคโนโลยี
|
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปตามผู้เรียน
|
บทบาทด้านการสอน
|
ครูและนักเรียนสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน
|
ขยายองค์ความรู้ด้วยการให้วงจรผลสะท้อนกลับจากการสร้างนวัตกรรม
|
เมื่อรัฐบาลประกาศยกระดับการจัดการศึกษาจาก 3.0 เป็น 4.0 มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาและยังสามารถนำความรู้ด้านเทคโนโลยีมาสร้างเป็นนวัตกรรมและทำให้เกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆการที่จะเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาจาก 3.0 เป็น 4.0 ต้องมีการร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานอื่นๆ และสิ่งที่สำคัญคือครูและผู้เรียนจะต้องร่วมมือกันในการขับเคลื่อนเพื่อให้การจัดการศึกษา 4.0 ประสบผลสำเร็จ
4. นักศึกษามีความคิดต่อการเรียนรายวิชา 1042404 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์อย่างไรบ้างมีความคาดหวังต่อการเรียนรู้รายวิชาดังกล่าวนี้เพื่อที่จะนำไปใช้ในอาชีพครูที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ (ตามที่คุรุสภากำหนด) โดยสรุป
การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
สำหรับในรายวิชาการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ ในการเรียนวิชานี้ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจ ในธรรมชาติของมนุษย์และการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น และสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านการศึกษาช่วยทำให้เราพัฒนาวิธีคิดทั้งความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลคิดอย่างสร้างสรรค์ และมีทักษะในการค้นหาความรู้ใหม่ๆมีความคาดหวังที่จะได้เทคนิคการสอนและรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ต่างๆไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด
ตารางวิเคราะห์เนื้อหาความรู้ตามรายวิชาที่เปิดสอน เทียบกับสาระความรู้ตามมาตรฐานที่คุรุสภากำหนด
มาตรฐานความรู้
|
สาระความรู้ตามมาตรฐาน
|
สมรรถนะตามมาตรฐาน
|
ชื่อวิชาและคำอธิบายรายวิชา
|
ผลการวิเคราะห์
|
1. ปรัชญาการศึกษา
|
(1) ปรัชญา แนวคิด และทฤษฎี
ทางการศึกษา ศาสนา เศรษฐกิจ
สังคม วัฒนธรรม
(2) แนวคิด กลวิธีการจัดการศึกษา
เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
|
(1) ประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนา สถานศึกษา
(2) วิเคราะห์เกี่ยวกับการศึกษาเพื่อ
การพัฒนาที่ยั่งยืน
|
1024104 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์แบบต่างๆ รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนวิชาชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ เพื่อพัฒนาบุคคล การเลือกรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนและชั้นเรียน การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
|
ในการพัฒนารูปแบบการสอนต้องอาศัยหลักการ ทฤษฎี ที่จะนำมาใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงตามสาระความรู้และสมรรถนะตามมาตรฐาน
|
2. การจัดการเรียนรู้และการจัดชั้นเรียน
|
(1) หลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติที่ เกี่ยวกับการจัดทำแผนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้
(2) ทฤษฎีและรูปแบบการจัดการ
เรียนรู้ รู้จักการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์และแก้ปัญหาได้
(3) การบูรณาการการเรียนรู้แบบเรียนรวม
(4) การจัดการชั้นเรียน
(5) การพัฒนาศูนย์การเรียนใน
สถานศึกษา
|
(1) สามารถจัดทำแผนการเรียนรู้
และนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผล
จริง
(2) สามารถสร้างบรรยากาศการ
จัดการชั้นเรียนให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้
|
1024104 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์แบบต่างๆ รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนวิชาชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ เพื่อพัฒนาบุคคล การเลือกรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนและชั้นเรียน การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
|
มีการนำหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และแนวปฏิบัติที่ เกี่ยวกับการจัดทำแผนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้และจัดทำแผนการเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ในการจัดการพัฒนารูปแบบเรียนการสอนซึ่งตรงตามสาระความรู้และสมรรถนะตามมาตรฐาน
|
3. นวัตกรรมและ
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
|
(1) หลักการ แนวคิด การออกแบบ การประยุกต์ใช้ และการประเมิน สื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
(2) เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการ
สื่อสาร
|
(1) ประยุกต์ใช้ และการประเมิน สื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
(2) สามารถเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อการสื่อสาร
|
1024104 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์แบบต่างๆ รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนวิชาชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ เพื่อพัฒนาบุคคล การเลือกรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนและชั้นเรียน การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
|
มีการนำหลักการ แนวคิด การออกแบบ การประยุกต์ใช้ และการประเมินสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการเรียนรู้ สามารถนำสื่อไปพัฒนารูปแบบการสอนซึ่งตรงตามสาระความรู้และสมรรถนะตามมาตรฐาน
|
4. การวัดและประเมินผลการศึกษา
|
(1) หลักการ แนวคิด และแนวปฏิบัติ
ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
(2) ปฏิบัติการวัดและการประเมินผล
|
(1) สามารถวัดและประเมินผลได้
(2) สามารถนำผลการประเมินไปใช้
ในการพัฒนาผู้เรียน
|
1024104 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
|
มีหลักการ แนวคิด และแนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพซึ่งตรงตามสาระความรู้และสมรรถนะตามมาตรฐาน
|
การจัดการเรียนรู้แบบเดิม (ก่อนพัฒนารูปแบบการสอน) กับแบบใหม่ (หลังการพัฒนารูปแบบการสอน)
การจัดการเรียนรู้แบบเดิม
(ก่อนพัฒนารูปแบบการสอน)
|
การจัดการเรียนรู้แบบเดิม
(ก่อนพัฒนารูปแบบการสอน)
|
กระตุ้นความสนใจ
ขั้นสำรวจและค้นหา
อธิบายลงข้อสรุป
ขยายความรู้
ประเมินผลการเรียนรู้
|
กำหนดจุดมุ่งหมายในการเรียนรู้
กำหนดทางเลือกในการเรียนรู้
ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
เลือกกลวิธีในการเรียนรู้
ประเมินผลการเรียนรู้
แสวงหาความรู้เพิ่มเติม
|
รูปแบบการเรียนการสอนแบบใหม่เน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งความรู้ไม่ได้มาจากการสอนของครูหรือผู้สอนเพียงอย่างเดียว แต่ความรู้จะเกิดขึ้นและถูกสร้างโดยผู้เรียนเอง การเรียนรู้จะเกดขึ้นได้ดีก็ต่อเมื่อผู้เรียนได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง ดังนั้นในกระบวนการเรียนการสอนครูควรให้ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้จากสิ่งที่มีอยู่และพัฒนาต่อยอดด้วยตัวผู้เรียนเอง การสอนจะเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญซึ่งการสอนแบบยัดเยียดความรู้จะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้น้อยกว่าการให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎี Constructivism
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น